วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2561

P.I.X.I.V fantasy:ไก่ฟ้าสุริยัน

ไก่ฟ้าสุริยัน
.
.
"แย่แล้ว!! ใครก็ได้ ได้ยินแล้วตอบด้วย!? นี่ กรีฟฟิน ไซย์=สกายร่า ขณะนี้ เรืออาร์ 002 กำลังประสบกับปัญหาฉุบเฉิน!! ขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน!! หากใครได้รับสัณญาณนี้แล้วตอบด้วย!!....."
.
.
.
.
ณ.เมือง"สุวรรณโคม"ดินแดนอันห่างไกลแห่งตะวันออก ดินแดนที่มีแต่ความสงบ ชาว"มัตตัย"อาศัยอยู่กันอย่างสงบสุข เด็กหนุ่มคนหึ่งกำลังยืนเข้าแถว"ใครที่ถูกเรียกรายชื่อต่อไปนี้ให้ก้าวออกมาข้างหน้า...!" "...........เอาหละ ครบกนทุกคนแล้วสินะ ยินดีด้วย พวกเอ็งทุกคนผ่านการทดสอบ นับแต่นี้ต่อไปพวกเอ็งทุกคนคือผู้กล้า ยอดนักรบแห่งมัตตัย จงสู้เพื่อความฝันอันเชิดฉายของพวกเอ็งเถิด..."
.
.
"....อีกแล้วสิ....ไม่ผ่านอีกแล้ว...."เด็กหนุ่มกำลังบ่นอย่างผิดหวัง"....เป็นไงบ้างพยัคฆ?"ชายวัยกลางคนพูดกับเด็กหนุ่ม"....ไม่ผ่านอีกแล้วพ่อครู..."เด็กหนุ่มตอบ.."....งั้นหรือ...เอ็งไปพักพ่อนก่อนไป เย็นค่อยไปฝึก..."ชายวัยกลางคนพูด"....ขอรับ พ่อครู..."เด็กหนุ่มตอบแล้วเดินจากไป ในค่ำคืนนั้นเด็กหนุ่มได้ออกมานั่งอยู่ภายนอกที่พัก"ยังไม่หลับอีกเหรอลูก..."ชายวัยกลางคนพูดกับเด็กหนุ่ม".....พ่อครู" "....ยังติดใจเรื่องนั้นอยู่อีกหรือ?"ชายวัยกลางคนถามเด็กหนุ่ม"....หกรอบแล้วนะขอรับ ที่ข้าไม่ผ่านการทดสอบ....ข้ามันไร้ความสามารถ...."เด็กหนุ่มพูด"อย่าคิดมากน่า พ่อเองกว่าจะมาอยู่ตรงนี้ได้ ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายซะเมื่อไร...แต่ว่าคนทุกๆคนมักมีสิ่งที่คู่ควรของแต่ละคนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะหามันเจอเมื่อไรเท่านั้นเอง"ชายวัยกลางคนปลอบใจพร้อมกับให้แนวทาง"....ถ้างั้นข้าจะหยุดความคิดที่จะเป็นผู้กล้า แต่ข้าจะฝึกวิชาเพื่อรอคอยเวลา เวลาที่ข้าจะพบกับสิ่งที่ข้าคู่ควร..!"เด็กหนุ่มตัดสินใจ"หึๆ พ่อรู้ว่าเอ็งต้องทำได้ และวันนั้นจะต้องมาถึงแน่ๆ"
.
.
รุ่งเช้า"พยัคฆ"ตื่นแต่เช้าและเข้าฝึกซ้อมอย่างอารมณ์ดี"....อะไรกัน? นี่คือสีหน้าของคนไม่ผ่านการทดสอบหรือนี่...."เด็กหนุ่มอีกคนเดินออกมาพูดกับพยัคฆ"......อืม....นั่นสินะ.....คงจะปลงได้แล้วหละมั่ง......"เด็กสาวที่ท่าทางเหมือนเพิ่งตื่นนอนพูดขึ้น"เออ...คือ...มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือคะ...?"เด็กสาวอีกคนพูดขึ้น"พอเลยทั้งสามคน! ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น ข้าแค่อารมณ์ดีก็เท่านั้นแหละ"พัยัคฆพูด"อารมฌ์ดีเรื่องอะไรของเจ้า"เด็กหนุ่มถามพยัคฆต่อ"....เอ็งอย่าเพิ่งมากวนอารมณ์ข้าได้ไหม ซามูเอล"พยัคฆพูดใส่เด็กหนุ่ม"....น่าๆ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทั้งสองคนอย่าเพิ่งอารมณ์เสียกันแต่เช้าเลยนะคะ....เดี๋ยวจะถูกครูทำโทษอีกนะคะ...."เด็กสาวพูดห้ามพยัคฆกับซามูเอล".....ชิ ก็ได้!!"พยัคฆกับซามูเอลตอบพร้อมกัน
.
.
เที่ยงวันนั้นมีชายแปลกหน้าวัยกลางคนมาหา"เดชา" หลังจากนั้นเดชาได้ออกมามาหาพยัคฆและเพื่อนๆแล้วบอกกับทุกๆคนว่า"ข้ามีภาระกิจให้พวกเอ็งทำ พวกเอ็งจะทำหรือไม่?""มีเรื่องอะไรเหรอขอรับพ่อครู....?"พยัคฆถาม"ลูกสาวของเพื่อนสนิดของข้า หายตัวไปแถวๆเขตุพรมแดนของที่ราบสูงทานตะวันกับที่ราบสูงมันเดย์ลีของเมืองเทมส์....หน้าที่นี้หนักหนานักและอันตราย พวกเอ็งจะยอมทำไหม....?"".....แค่หาตัวลูกสาวของเพื่อนพ่อครูให้เจอแล้วพากลับมาให้ได้ก็พอใช่ไหมขรับ....?"พยัคฆถามเดชา"....ใช่...."เดชาตอบ"....ข้ารับอาสาเอง"ซามูเอลพูด"ข้าไปด้วย!"พยัคฆพูด"ฉ...ฉันขอไปด้วยค่ะ!!"สกาเล็ตตอบ".....ไปด้วย...."เซ็นนะพูด"....ดีมากทุกคน จงจดจำทุกอย่างที่เคยฝึกฝนให้ดีๆ และจงใช้งานสิ่งเหล่านั้นให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพให้ได้อย่างเต็มที่เพราะจากนี้ต่อไปมีแต่พวกเอ็งสี่คนเท่านั้น ขอให้พวกเอ็งทุกคนจงโชคดี..."เดชาบอกกับทุกคนก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปเตรียมตัวออกเดินทาง
.
.
หลังจากที่ทั้งสี่คนออกมานอกเมืองเพื่อที่จะเดินทางไปที่เขตุชายแดนบริเวณที่เป็นจุดหมาย เมื่อมาถึงซามูเอลจึงบอกกับทุกคนว่า"....จากนี้ไป เราจะแยกย้ายออกกันตามหา หากใครพบเจอเบาะแสอะไรก็จุดพลุส่งสัญญาณบอกตำแหน่งทันที มีใครสงสัยอะไรไหม?"ซามูเอลถาม"ไม่ คราวนี้เอ็งเป็นคนนำ แล้วพวกข้าต้องไปทางไหน?"พยัคฆถามซามูเอลกลับ"....ของเจ้าคือทางนั้น ผื้นป่ารกร้าง ทำได้หรือเปล่า...?"ซามูเอลพูดกับพยัคฆ"เออ ทำไมจะไม่ได้...."พยัคฆตอบ"เซ็นนะ เจ้าไปทางนั้น ทุ่งหญ้าเลี้ยงโค...."ซามูเอลบอกกับเซ็นนะ".................อื่ม............"เซ็นนะตอบ"สกาเล็ต เจ้าไปทางนั้น ตีนผาวิหก"ซามูเอลบอกกับสกาเล็ต"ค..ค่ะ!!"สกาเล็ตตอบ"ส่วนข้า จะดูที่วิหารนาคาเอง เอาหละ แยกย้ายได้!!"
.
.
หลังจากที่พยัคฆและคนอื่นๆในกลุ่มแยกย้ายกันไปคลละทางของแต่ละคนแล้ว พยัคฆได้เดินทางมาที่ผื้นป่าที่รกร้าง เมื่อพยัคฆเดินเข้ามาในป่าเรื้อยๆเขาได้พบกับร่องรอยของต้นไม้ที่หักเป็นทางแนวยาว"....นี่มันเกินอะไรขึ้นกันวะเนี้ย?!"เขาอุทานขึ้น และเมื่อเขาเดินต่อมาเรี่อยๆ เขาก็ได้พบกับ"เรือบิน"ลำนึงที่ในสภาพที่เสียหายทั้งลำ และเมื่อเขาเดินเข้าไปดูใกล้เขาได้เห็รอยเท้าหนึ่งรอยที่ตรงไปยังป่าลึก เขาจึงตัดสินใจจุดพลุขึ้นฟ้าเพื่อส่งสัญญาณให้คนอื่นรู้แล้วจึงเดินตามรอยเท้าเข้าไปในป่าอีกครั้ง ในระหว่างทางเขาได้ทำเครื่องหมายเอาไว้เพื่อที่จะได้ไม่หลงทางและเพื่อบอกกับคนอื่นๆว่าเข้ากำลังจะไปตรงไหนจะได้ตามหาเขาถูก หลังจากเดินตามรอนเท้ามาหลายชั่วโมงแล้ว เขาได้พบกับวิหารร้างที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า"....นี่มัน....วิหารงั้นรึ?! รอยเท้านั่นตรงเข้าไปข้างในนั้น คงจะอยู่ตรงไหนสักที่ในวิหารนั้นแน่...."เขาพูดขึ้นก่อนที่จะเดินตามรอยเท้าเข้าด้านในวิหาร
.
.
ภายในวิหารร้านนั้นพยัคฆได้พบกับภาพวาดฝาผนังจำนวนมากเรียกรายไปตลอดทางเดิน"อะไรกันเนี้ยภาพพวกนี้....?"พยัคฆพูดขึ้นเมื่อดูภาพฝาผนังเหล่านั้น ทางด้านซามูเอลเอง เมื่อได้เห็นพลุสัญญาณที่พยัคฆจุดขึ้นมาแล้วนั้นก็รีบเดินทางไปยังจุดๆนั้นทันที และเมื่อเขามาถึงก็พบกับเซ็นนะและสกาเล็ตที่ตามมาสมทบที่หลัง"...นี่ใช่เรือบินที่พวกเขาบอกหรือเปล่าคะ?"สกาเล็ตถาม"ข้าไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ดูรอยเท้าสองรอยนี่สิ มีรอยนึงที่ยังดูใหม่กว่า..."ซามูเอลตอบ"....คิดว่าเป็นของเสือตัวนั้นแน่...."เซ็นนะพูด"...พวกเราตามรอยนี้ไปกันเถอะ บางทีอาจจะพบเจ้านั่นกับคนที่เรากำลังตามหาอยู่ก็ได้!"ซามูเอลพูด"ก็ดีเหมือนกันค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้น หวังว่าสองคนนั้นจะปลอดภัยนะคะ!"สกาเล็ตพูดเสริม"ถ้าเช่นนั้น ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม เพราะบางทีระหว่างทางเราอาจจะเจอแขกไม่ได้รับเชิญก็ได้..."ซามูเอลพูด"....พูดช้าไปหน่อยนะ....คุณชาย..."เซ็นนะพูด และเมื่อทุกคนหันไปดูตามสายตาของเซ็นนะแล้ว ทุกคนพบกับสัตว์จักรกลตัวหนึ่งที่กำลังตรงมาหาพวกเขา"....เอ่อ....สมพรปากจริงแท้ๆ..."ซามูเอลพูด
.
.
ทางด้าพยัคฆเองก็กำลังเดินตามหาเจ้าของรอยเท้าที่นำเขามาที่นี่แต่ทว่า รอยเท้าทั้งหมดได้หายไปจนทำให้เขาเดินตามหาทุกห้องที่เขาพบ"...หายไปไหนนะ รอยเท้าก็ไม่มีแล้วเอาไงดี....?"เขาบ่นกับตัวเองก่อนจะนั่งคิดอะไรอยู่พักหนึ่งและลุกขึ้นแล้วทำการปั่นจิ้งหลีดห้ารอบและหยุดลงและเดินไปตามทางที่เขาหันหน้าไปเรื่อยๆ"....มีแต่ต้องเดาเท่านั้นนี่หว่า..."เขาพูดกับตัวเอง หลังจากเดินมาได้ครู่หนึ่งเขาก็ได้พบกับห้องโถวที่มีขนาดกว้างมากพอสมควร และที่นั่นเขาได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้อยู่กับอะไรบางอย่างที่เหมือนกับรูปปันสัตว์ในตำนาน การโจมตีของรูปปันสัตว์ในตำนานพวกนั้นทำให้ดาบที่หญิงสาวคนนั้นใช้หักไปเล่มนึง เธอจึงเหลือดาบเพียงเล่มเดียว เมื่อพยัคฆเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยหญิงสาวคนนั้นต่อสู่ด้วยอีกแรงจนสามารถทำลายรูปปันเหล่านั้นลงได้หมดอย่างทุลักทุเล"แฮ่ก....แฮ่ก...ขอบคุณมากนะคะ ที่เข้ามาช่วย..."หญิงสาวกล่าวขอบคุณ"....ไม่เป็นไร เอ็งเป็นใคร ข้าไม่เคยเห็นหน้า...?"พยัคฆถามหญิงสาว"ฉันเป็นชาวสวรรค์ ชื่อ กรีฟฟิน ไซย์ หรือจะเรียกฉันว่า สกายร่า ก็ได้ค่ะ..."หญิงสาวตอบ".....เฮ้อ....หาเจอสักที..."พยัคฆพูดพรางถอนหายใจอย่างโล้งอก"...เอ๋? ตามหาฉันหรือคะ?"สกายร่าถามพยัค์"...ใช่ ข้า พยัคฆ คนของพรรค์กระเบน มีคำสั่งจากขุนเดชาให้ออกตามหาบุตรสาวของ กรีฟฟิน ไซย์ ผู้เป็นสะหาย..."
.
.
หลังจากที่ทั้งสองคนพักเหนื่อยกันเสร็จแล้วก็ได้พากันมายังทางออกแต่ปรากฎว่าทางเดินทุกอย่างแปลกไปจากเดิม"น...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันคะเนี้ย ทำไม....ตอนที่ฉันเข้ามาฉันจำได้ว่าทางเดินมันไม่ได้เป็นอย่างนี้นี่คะ!?"สกายร่าพูดด้วยความประหลาดใจ"...ดูเหมือนว่าจะเป็นกลไกอะไรสักอย่างของวิหารนี้ แปลกมาก....ทั้งๆที่ที่นี่ร้างมาหลายร้อยปีแล้วนี่นา เหตุใดกลไกพวกนี้ถึงยังใช้งานได้อยู่กันนะ...?พยัคฆพูด หลังจากนั้นทั้งคู่จึงตัดินใจเสียงดวงเดินไปอีกเส้นทางนึ่ง"...จะว่าไป คุณพยัคฆคะ คุณเป็นผู้กล้าแบบเดียวกับคุณเดชาหรือเปล่าคะ?"สกายร่าถามพยัคฆขณะกำลังเดินไปตามทาง"....เปล่า ตอนนี้ข้าเป็นเพียงแค่นักสู้ฝึกหัดเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้กล้าอะไรแบบนั้นหรอก..."พยัคฆตอบกลับและหยุดเดินเมื่อถึงห้องห้องหนึ่งและนั่งลงเพื่อที่จะพักเพราะเดินกันมาได้สักพักแล้ว"งั้นหรือคะ ฉันคิดว่าคุณน่ะ มีฝีมือนะคะ การเป็นผู้กล้า ฉันว่าสำหรับคุณไม่ใช่เรื่องยากนะคะ.."สกายร่าพูดต่อ"เอ็งคิดเช่นนั้นหรือ?"พัยคฆถามสกายร่า"ค่ะ ฉันคิดแบบนี้นจริงๆ"สกายร่าตอบ"...แล้วเอ็งหละ เป็นนักนักสู้ระดับใด?"พยัคฆถามสกายร่า"ฉันเป็นจอมดาบแล้วค่ะ เพียงแต่ยังไม่เป็นทางการเพราะฉันต้องไปรับตำแหน่งที่เมืองเทมส์น่ะค่ะ แต่มาเกิดเรื่องนี้เอาซะก่อน..."สกายร่าพูดด้วยสีหน้าหดหู่"....ข้าเล่าอะไรให้ฟัง นักรบ หรือ นักสู่บนโลกนั้นมีเกีรยติยศมากที่สุดคือ พวกทั่วไป และพวกที่มีเกีรยติยศและสิธิพิเศษมากที่สุดก็คือ ผู้กล้า และ พวกที่ไม่ต่างกับสามัญชล มีสิธิเทียบเท่าบุคคลทั่วไป แต่กลับไร้ซึ่งเกรียติยศ คือ นักล่าสัตว์ร้าย หากเป็นเอ็ง เอ็งจะเลือกอะไร...?"พยัคฆถามสกายร่า"....เลือกเป็นอะไรก็ได้ค่ะ!"สกายร่าตอบ"....อะไรนะ?"พยัคฆทะลักออกมา"...ก็ จะผู้กล้าก็ดี นักรบทั่วไปก็ดี หรือนักล่าสัตว์ร้ายก็ดี สุดท้ายทุกอย่างมันก็ช่วยเหลือผู้อื่นได้เหมือนกันนี่คะ ถึงวิธีการช่วยเหลือผู้อื่นจะไม่เหมือนกันก็เถอะค่ะ....."สกายร่าตอบทำให้พยัคฆนิ่งอึ้งไปครู่นึงเลยทีเดียว"...เอ็งนี่มัน...แปลกคนดีแท้..."พยัคฆพูดก่อนที่จะลุกขึ้นและพาสกายร่าออกเดินกันต่อไป
.
.
หลายชั่วโมงต่อมาขณะที่ทั้งคู่กำลังเดินไปตามทางเดินอยู่นั้นเอง พยัคฆเกิดสะดุตากับภาพวาดภาพหนึ่งที่เป็นภาพของเมืองที่กำลังจมลงสู่ท้องทะเล"....อะไรกันนะภาพพวกนี้ ชักเริ่มสงสัยซะแล้วสิ ว่ามันเป็นภาพเรื่องราวในอดีตหรือคำทำนายในอนาคตกันนะ...?"พยัคฆพูดขณะที่กำลังดูภาพเหล่านั้น"...เออ...คุณพยัคฆคะ ฉันว่าคุณลองมาดูตรงนี้ดีกว่าค่ะ..."สกายร่าพูดกับพยัคฆด้วยสีหน้าที่ตกตะลึงและเมื่อพยัคฆหันไปดูก็เห็นรูปปันขนาดใหญ่ตั้งอยู่ภายในห้องโถวด้านหน้า"....ตำนานเป็นจริงหรือนี่....ไก่ฟ้าสุริยัน...!!"พยัคฆอุทานขึ้นอย่างตกตะลึง"เออ คุณพยัคฆคะ ไม่ทราบว่านี่คืออะไรคะ คุณพอจะรู้จักไหมคะ?"สกายร่าชี้ให้พยัคฆดูวัถุคล้ายกับดาบที่ปักอยู่บริเวณประตูทางเข้า แต่พยัคฆยังไม่ทันที่จะตอบอะไรมือของสกายร่าก็ไปโดนเข้าพอดี ทำให้กลไกทุกอย่างในวิหารหยุดลงและวัถุนั้นก็หลุดติดมือของสกายร่าออกมาด้วย"....อะไรกัน คนพวกนี้ใช้ดาบเล่มนี้เป็นกุญแจเช่นนั้นหรือ?!"พยัคฆพูดด้วยความประหลาดใจ
.
.
หลังจากที่กลไกทุกอย่าภายในวิหารหยุดทำงานลง สกายร่าและพยัคฆได้เดินเขาไปภายในโถงนั้น ซึ่งภายในห้องนั้นมีขนานกว้างกว่าทุกห้องที่เขาเคยผ่านมา"....คิดว่า นี่คือห้องโถงหลักนะ...."พยัคฆพูดขึ้น"ฉันก็คิดว่า น่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ..."สกายร่าพูดเสริมและค่อยๆเดินสำหรวจไปเรื่อยๆจนถึงกลางห้อง ตรงพื้นกลางห้องนั้นมีช่องอยู่ช่องหนึ่ง ทั้งสองคนจึงเดินเข้ามาสำหรวจดู"เมื่อกี้คุณบอกว่า ดาบเล่มนี้คือกุญแจใช่มั้ยคะ?"สกายร่าถามขึ้น"ใช่ ทำไมรึ?"พยัคฆสงสัย"...ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ฉันคิดว่า ฉันจะใช้ดาบเล่มนี้ลองใส่เข้าไปในข่องนี้ เพราะเท่าที่ฉันเห็น ขนาดของช่องนี้มันน่าจะพอดีกับดาบเล่มนี้อยู่น่ะค่ะ!"สกายร่าพูดแล้วนั่งลงและค่อยๆปักดาบเล่มนั้นลงไปในช่องจนเหลือเพียงกั่นดาบและด้ามจับเท่านั้น จากนั้นเธอก็ออกแรงบิดดาบเล็กน้อย จากการกระทำนั้นทำให้พื้นที่ภายใรห้องโถงนั้นเกิดสั่นสะเทือนเล็กน้อยอยู่ครู่นึง ก่อนที่ทุกอย่างจะค่อยๆหยุดลง"อ...อะไรกันหรือคะ!? หรือว่านี่จะเกิดจากที่ฉันใช้ดาบเล่มนั้นหรือเปล่า?"สกายร่าพูดอย่างตื่นๆ"....ข้าคิดว่า คงจะเป็นแค่กลไกอะไรบางอย่างเริ่มทำงานก็ได้ล่ะมั้ง"พยัคฆตอบ หลังจากนั้นไม่นาน ดาบที่สกายร่าปักลงบนพื้นนั้นก็ค่อยๆถูกกลไกดันขึ้นมาจากพื้น"คุณพยัคฆดูนั่นสิคะ! ดาบเล่มนั้นใส่ฟักดาบขึ้นมาด้วยค่ะ!"สกายร่าร้องเรียกพยัคฆพร้อมกับชี้มือไปยังดาบเล่มนั้นด้วยอาการตื่นเต้น"จริงด้วย! มันยังไงกันนะของพวกนี้?!"พยัคฆพูดด้วยความแปลกใจกับสิ่งที่เห็น
.
.
หลังจากที่สกายร่าได้ดาบเล่มนั้นคืนมาแล้วและกำลังทำการสำหรวจภายในห้องต่ออยู่นั้นเอง ก็ได้เกิดแรงสะเทือนขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้แรงสะเทือนนั้นมากกว่าและนานกว่าครั้งแรกมาก"อะไรกันอีกล่ะครานี้?"พยัคฆพูดขึ้น แต่ทันใดนั้นก็ได้มีจักรกลรูปร่างคล้ายมนุษย์ที่มีหกแขนออกมาจากพหนังห้อง"แย่หละสิ! อสูรเหล็กหกแขนนี่หว่า!!"พยัคฆอุทานขึ้น"ล...แล้วเราจะทำอย่างไรดีคะ!?"สกายร่าพูดอย่างตื่นตระหนก"ก็หนีสิ ถามได้!!"พยัคฆพูด จากนั้นทั้งคู่ก็กำลังจะหนีออกจากห้องโถวอยู่นั้นเอง สะพานที่เชื่อมกับพื้นที่ใจกลางห้องกับประตูทางเข้า-ออกได้หายไปแล้วในตอนนี้"สะพานตรงนี้มันหายไปแล้วค่ะ! คุณพยัคฆ! จะทำอย่างไรดีล่ะคะ!?!"สกายร่าถาม"โธ่โว้ย! สุดท้ายก็ต้องมาวัดดวงกับเจ้านี่หรือนี่!!"พยัคฆพูดอย่างหัวเสียก่อนที่ทั้งคู่จะหันหลังกลับไปกับอสูรเหล็กตัวนั้น"เราแค่สองคน คุณคิดว่าเราจะทำได้ไหมคะ?"สกายร่าถามความคิดเห็นของพยัคฆ"ข้าตอบไม่ได้หรอก แต่ถ้าไม่ลองดูสักตั้งก็ไม่รู้หรอก..."พยัคฆตอบ"....แล้วคุณพอจะมีแผนอะไรบ้างมั้ยคะ?"สกายร่าถามพยัคฆอีกครั้ง".....ไม่ แต่อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย ขอด้นมันสดๆเลยล่ะกัน!"พยัคฆตอบ
.
.
ทางด้านซามูเอล หลังจากที่ล้มสัตว์จักรกลลงได้แล้วก็ทำการตามรอยเท้าของพยัคฆกันต่อ"....ป่านนี้สองคนนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างนะ?"สกาเล็ตพูดขึ้นอย่างใจลอย"....คงจะไปแอบนอนกันอยู่ที่ไหนสักแห่งอยู่ล่ะมั้ง....."เซ็นนะพูด"...อย่าเอาตัวเองมาเปรียบเทียบแบบนั้นสิคะ"สกาเล็ตพูดกลับ".....ข้าหมายถึง....เรื่องระหว่าชาย-หญิงต่างหากล่ะ...."เซ็นนะพูดต่อ"ร....เรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้วล่ะค่ะ!"สกาเล็ตยืนยันหนักแน่น"....แน่ใจหรือ.....?"เซ็นนะพูดพร้อมทำท่าทางประกอบ"ย....อย่างไรซะ! ฉันก็เชื่อว่าพยัคฆเค้าจะไม่ทำเรื่องหน้าอายแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นหรอกค่ะ!"สกาเล็ตยืนยันคำเดิม"....ผู้หญิงคนอื่น? นอกจากเจ้าหรือ...?"เซ็นนะถามสกาเล็ต เมื่อสกาเล็ตได้ยินเซ็นนะถามแบบนั้นก็ไม่ได้ตอบอะไรแต่ก็หลบหน้าเซ็นนะไปทางอื่น"....
เจ้าคิดว่าไง.....คุณชาย....?"เซ็นนะหันไปถามซามูเอลที่กำลังทำหน้าที่แกะรอย"....ช่างหัวสิ! บ้างทีเจ้านั่น อาจจะหนีกลับไปแล้วก็ได้มั้ง หรือไม่ ก็อาจจะตายไปแล้วก็ได้! ใครจะรู้?!"ซามูเอลพูดเชิงตัดบท"ท....ทำไมต้องพูดอะไรแรงๆขนาดนั้นด้วยคะ?!?"สกาเล็ตหน้าเสียเมื่อได้ยินคำพูดของซามูเอล"....เดี๋ยวก็รู้ว่าที่ข้าพูด ว่าจะจริงหรือไม่จริง!"ซามูเอลพูดและชี้มือไปข้างหน้า"....และถ้าหากมันเป็นแบบนั้นจริงๆหล่ะก็ ข้าจะไม่มีวันยกโทษให้เจ้าแน่! พยัคฆ!!"
.
.
ทางด้านพยัคฆ ในขณะที่กำลังกำลังต่อสู้กับอสูรเหล็กอยู่นั้นเอง สกายร่าได้พลาดท่า ถูกอสูรเหล็กโจมตีจนดาบหลุดมือแต่เธอก็ยังมีสติอยู่มากพอที่จะหลบการโจมตีครั้งที่สองออกมาได้อย่างทันท่วงที แต่กระนั้นอสูรเหล็กก็ได้โจมตีเธอซ้ำอีกครั้ง ซึ่งพยัคเองก็พยายามเข้าไปเปี่ยงเปนความสนใจของอสูรเหล็กแต่ก็ไม่เป็นผล ถูกอสูรเหล็กปัดกระเด็นออกไปจนเกือบจะตกขอบของพื้นตรงใจกลางห้อง เมื่อเป็นแบบนั้นสกายร่าจึงใช้ดาบที่ได้มาเข้าต่อสู้กับอสูรเหล็ก และเมื่อเธอใช้ดาบเล่มนั้นฟันลงไปยังอสูรเหล็กก็เกิดเปลวไฟขนาดใหญ่ขึ้นตามแรงเหวียงของเธอ และในที่สุดเธอก็สามารถทำลายอสูรเหล็กลงได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว"นั่น.....พลังของเอ็งรึ?"พยัคฆถามสกายร่า"ม....ไม่ใช่นะคะ!! ถึงฉันจะใช้เวทไฟได้ แต่ก็ไม่รุ่นแรงขนาดนี้หรอกค่ะ! ....หรือว่าเป็นเพราะดาบเล่มนี้?"สกายร่าพูด ทว่า หลังจากที่สกายร่าพูดจบ ดาบเล่มนั้นก็ได้หักลง"อ้าว!!? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้...??"สกายร่าอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ"....อาจจะเป็นเพราะพลังที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อครู่ มันถูกปล่อยออกมากมากในคราวเดียว รวมกับดาบเล่มนั้นก็เก่ามากแล้ว ดาบเล่มนั้นเลยรับสภาวะแบบนั้นไม่ไหวถึงได้หักได้..."พยัคออกความคิดเห็น ในขณะนั้นเอง อสูรเหล็กตัวใหม่ และใหญ่กว่าตัวก่อนหน้านั้น ได้ออกมาประจันหน้ากับทั้งคู่อีกครั้ง"คราวนี้ จะทำอย่างไรดีคะ?! ฉันไม่เหลือดาบที่จะสู้แล้วนะคะ!!?"สกายร่าพูดอย่างร้อนรน"....เอาดาบของข้าไป..."พยัคฆพูดพร้อมส่งดาบให้สกายร่า"ล...แล้วคุณจะใช้อะไรสู้ล่ะคะ??!"สกายร้องถามพยัคฆ"....ข้ามีก็แล้วกัน รีบๆรับไปซะ ไม่อย่างนั้นแล้ว....เอ็งจะไม่ได้กลับไปหาพ่อของเอ็น ที่กำลังรอเอ็งอยู่ที่พรรค์กระเบนโน้นแน่!"พยัคฆพูดแกมข่มขู่และบังคับ สกายร่าได้ยินพยัคฆพูดแบบนั้นก็รีบรับดาบจากพยัคฆไปทันที"อุ๊บ!......หนักจัง...ดาบเล่มแค่นี้เอง.....!"สกายร่าพูด"....แรกๆก็เยี่ยงนี้แล ประเดี๋ยวก็ชิน ถามว่าข้าใช้อะไรสู้น่ะรึ?"พยัคฆพูด เป็นขณะเดียวกันที่อสูรเหล็กได้กระทำการโจมตีมายังทั้งสองคน แต่ก็ถูกพยัคฆใช้หมัดซ้ายต่อยสวนกลับไป ทำให้การโจมตีของอสูรเหล็กหยุดลง ก่อนที่เขาจะออกแรงดันให้อสูรเหล็กตัวนั้นกระเด็นถอยหลังจนเสียหลักล้มลงกับพื้น"....ก็ใช้ร่างกายนี้แล เป็นอาวุธ!"พยัคฆพูด"....ค......คุณทำได้อย่างไร??"สกายร่าพูดขึ้นอย่างตกตะลึง"....หลังจากนี้ เอ็งจะกลัว หรือ จะเกรียดข้า ก็ตามใจเอ็ง......เพราะตัวข้าไม่เหมือนคนอื่นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้แต่เจ้าพวกนั้นก็ยังได้มีผู้ใดรู้ไม่!"พยัคฆพูด เป็นขณะเดียวกันกับทึ่อสูรเหล็กลุกขึ้นมาอีกครั้ง และกำลังจะเข้ามาโจมตีใส่ทั้งสองคนอีกครั้งแต่ก็กลับถูกโจมตีใส่จนลงไปนอนกับพื้นอีกครั้ง
.
.
".....เหลือเชื่อ....ยังอยู่ครบดีนี่...."เซ็นนะพูดกับพยัคฆ"อ้าว....เจอหน้ากันที จะทักทายให้กันดีๆไม่ได้หรือไรวะ??"พยัคฆพูดกับเซ็นนะ"ก็ดีแล้วนี่คะ ปลอดภัยกันดีทั้งสองคน ก็......??"สกาเล็ตหยุดพูดเมื่อหันไปมองซามูเอล"....ฮึ..."เสียงในลำคอของซามูเอล"อะไรของเอ็งวะ?"พยัคฆถาม"....ดูเหมือนว่า เจ้าจะยอมรับในพลังของตัวเจ้าเองแล้วสินะ...."ซามูเอลพูดขึ้น"เฮอะ!"เสียงของพยัคฆดังขึ้น"....คือ....จริงๆแล้ว....พวกเรารู้เรื่องนี้กันมานานแล้วล่ะค่ะ....แต่ครูไม่อยากให้พวกเราพูดถึงเรื่องนี้กันค่ะ เพราะกลัวว่าเธอจะคิดว่าพวกเราจะมองเธอเป็นตัวประหลาด ต....แต่ว่า!"สกาเล็ตพูด"....ก็ครอบครัวเดียวกันนี่นะ....คนอื่นไกลซะที่ไหน...."เซ็นนะพูดแซงสกาเล็ต แต่กระนั้นอสูรเหล็กตัวนั้นก็ยังสามารถที่จะดันตัวเองขึ้นมาได้อีก"บ๊ะ! นี่ยังไม่ยอมล้มอีกรึ!"พยัคฆพูด"....งั้นก็รีบๆทำลายมันซะ จะได้กลับกันสักที!"ซามูเอลพูด"...ก็ว่างั้นนะ...ข้างวงจะแย่อยู่แล้ว...."เซ็นนะพูดเสริม"นั้นสินะ....ฉันเองก็มีหนังสือที่ต้องอ่านอีกสองตั้งใหญ่ๆด้วยนะคะ!"สกาเล็ตพูด"....ไอ้เจ้าพวกนี้...."พยัคฆพูดพร้อมกับยิ้มมุมปากน้อยๆ"ฮิๆ ฮ่ะๆๆ! คุณพยัคฆ คุณน่ะ มีเพื่อนที่ดีนะคะ ฉันน่ะอิจฉาคุณเลย..."สกายร่าพูด"กระนั้นรึ...."พยัคฆพูด"....ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะขอเป็นเพื่อนกับคุณและทุกๆคนด้วยนะคะ!"สกายร่าพูด 
.
.
.
.
"....ว่าแต่ พวกเอ็งหาพวกข้าสองคนเจอได้เยี่ยงใดกัน?"พยัคฆถามพวกซามูเอล"....เพราะพลังแห่งความหึง...."เซ็นนะพูดพร้อมชี้ไปที่สกาเล็ต"....นางใช้พลังเวททำลายผนังวิหารทั้งหมด โดยไม่บอกใครเลยยังไงล่ะ! พวกเราถึงพบพวกเจ้าได้!"ซามูเอลพูด"ฉ....ฉ....ฉันไม่ได้หึงนะคะ!! แล้วก็ฉันก็คิดว่าควรทำในสิ่งที่ควรทำ ถึงอย่างนั้นก็ต้องขอโทษทั้งสองคนด้วยนะคะ....ที่ไม่ได้ปรึกษากันก่อน....พ...เพราะว่า...ฉ...ฉันเป็นห่วงเธอจริงๆนะ....แต่พอเห็นว่า(พวก)เธอปล่อดภัย...ฉันก็ดีใจ....."สกาเล็ตพูด"....ขอบใจ..."พยัคฆพูดพร้อมกับเดินเข้าไปกอดทั้งสามคน"....ฮึ! ร้องไห้หรือ เจ้าขี้แย?"ซามูเอลพูด"....หนวกหูจริง....ไอ้เจ้าบ้า...."
.
.
ณ.เมืองสุวรรณโคม ที่บริเวณเรือนรองรับของพรรค์กระ ไซย์และเดชากำลังนั่นรอการกลับมาของทุกคน"....จะเป็นอย่างไรกันบ้างนะ?"ไซย์พูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ"....อย่ากังวลไปเลยน่าท่านแม่ทัพ หากคืนนี้พวกนั้นยังไม่มา อย่างไรซะ การเดินทางในป่าแบบนั้นในเวลากลางคืนเช่นนี้มีอันตรายอยู่มากนัก พรุ่งนี้พวกนั้นก็คงจะมาถึงเอง...."เดชาพูดปลอบใจไซย์หลังจากที่ทดเห็นความกระวนกระวายของไซย์ไม่ไหว"....คุณดูใจเย็นมาก ไม่ต่างกับตอนนั้นเลย...."ไซย์พูด"....ไม่หรอก คนเรายิ่งแก่ตัว ก็ยิ่งใจเย็นลง จะให้โจนทะยานเหมือนกับเด็กๆพวกนั้นแล้วก็ใช่ที่...."เดชาพูดตอบ"....ดูเหมือนว่าคุณจะเชื่อมั่นในตัวเด็กพวกนั้นมากเลยนะครับ....?"ไซย์พูดต่อ"....มีครู-อาจารย์ที่ไหนบ้าง ที่จะไม่เชื่อมั่นในตัวลูกศิษย์ของตนเองบ้าง? และจะมีพ่อ-แม่คนไหนบ้าง ที่จะไม่เชื่อมั่นในตัวบุตรของตนบ้าง....?"เดชาตอบ"...จริงของคุณ"ไซย์พูดสั้นๆ"คุณพ่อ! คุณพ่อคะ!! หนูมาแล้ว!!"เสียงของสกายร่าดังขึ้น"ลูกพ่อ!!?"ไซย์พูดขึ้นเมื่อเห็นสกายร่ากำลังวิ่งเข้ามาหา เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปหาสกายร่าแล้วกอดเธอเอาไว้แน่น".....ปลอดภัยดีนะลูก?!"ไซย์ถามสกายร่าผู้เป็นลูกสาว"ค่ะ....หนูไม่เป็นไรค่ะ หนูปลอดภัยดี...."สกายร่าตอบทั้งน้ำตาแห่งความดีใจ".....ภาระกิจเสร็จสิ้นครับอาจารย์...."ซามูเอลพูดกับเดชา"....พวกเจ้าทำได้ดีมาก ปลอดภัยกันดีนะ....?"เดชาถาม".....ครับ/ค่ะ!"ทุกคนตอบพร้อมกัน"....เอาล่ะ พวกเจ้าไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนกันก่อน เดี๋ยวค่อยมากินอาหารกันอีกสิบห้านาที...."เดชาบอกกับพวกซามูเอล"ขอบคุณอาจารย์(พ่อ/ครู)มากครับ/ค่ะ!"ทุกคนพูดพร้อมกันอีกครั้งก่อนจะแยกย้ายกันไปยังที่พักของตน"....พ่อครู...ท่านบอกเรื่องนั้น กับพวกนั้นหรือขอรับ?"พยัคฆถามเดชา"....แล้วลูกได้คำตอบของตัวเองแล้วหรือยังล่ะ?"เดชาไม่ตอบแต่ส่งคำถามกลับไปหาพยัคฆ"....ข้ารู้แล้วขอรับ พ่อครู!"พยัคฆตอบเดชาก่อนที่จะขอตัวออกไปพักผ่อน ในคืนนั้นทุกคนรวมทั้ง ไซย์และสกายร่า ได้รวมทานอาหารค่ำด้วยกันกับพวกของเดชา ต่างพูดคุุยถึงเรื่องเรื่องราวมากมากที่เกิดขึ้้นกับสกายร่าและพวกของซามูเอล รวมถึงยังเล่าเรื่องราวของพวกตนในสมัยที่เคยร่วมรบด้วยกันอีกด้วย หลังจากนั้นสกายร่าได้แนะนำพยัคฆ,ซามูเอล,เซ็นนะ และสกาเล็ต ให้กับไซย์ผู้เป็นพ่อของเธออีกด้วย
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น ทุกคนได้ออกมาส่งไซย์และสกายร่า ตรงบริเวณท่าจอดเรือบิน"ขอบคุณ คุณเดชามากๆนะครับ ที่ช่วยเหลือลูกสาวผม..."ไซย์พูด"ไม่เป็นไรหรอก หากว่าท่านจะขอบคุณ ก็ต้องเป็นเด็กๆพวกนี้ถึงจะถูก...."เดชาพูด"....คำขอบคุณไม่จำเป็นหรอกครับ ขอแค่เราได้มีส่วนร่วม ก็เป็นเกียรติแล้วล่ะครับ..."ซามูเอลพูด"....นั่นสินะ...."เซ็นนะเสริม"จริงด้วยค่ะ!"สกาเล็ตเสริมอีกคน"....คิดว่า เราคงจะได้พบกันอีกนะ เหล่าจอมยุทธ!"ไซย์พูดกับทุกคน ก่อนที่จะหันหลังเดินขึ้นเรือไป"คุณพยัคฆ ทุกคนคะ ที่ผ่านมา ฉันขอบคุณทุกคนนะคะที่ช่วยชีวิตฉันเอาไว้...."สกายร่ากล่าวขอบคุณพยัคฆกับเพื่อนๆ"....เอานี่ รับไว้ เพราะมันมิจำเป็นสำหรับข้าอีกต่อไปแล้ว ข้ายกให้!"พยัคฆพูดแล้วส่งดาบที่ตนนำมาด้วยส่งให้กับสกายร่า"...แล้วคุณ....?"สกายร่าถามพยัคฆ"ก็รู้อยู่มิใช่รึ?"พยัคฆตอบสั้นๆ".....ขอบคุณมากๆนะคะ! ทุกคนคะ หวังว่าพวกเราคงจะได้พบกันอีกนะคะ!! ลาก่อนค่ะ!!"สกายร่ากล่าวอำลา ก่อนที่จะขึ้นไปบนเรือบินตามหลังไซย์ไป และเรื่อบินลำนั้นก็ค่อยๆลอยสูงขึ้นและบินจากไปจนลับตา"....ฉันจะจดจำความรู้สึกนี้เอาไว้ตลอดไป ฉันขออธิฐาน ให้พวกเราได้พบกันอีกด้วยเถอะ...."สกายร่าพูดขึ้นเบาๆและกอดดาบที่พยัคฆให้มา เอาไว้แน่น
.
.
"พ่อครู! กรุณาด้วยเถอะขอรับ กรุณาช่วยสอนวิชาหมัดมวยให้ข้าด้วยเถอะขอรับ!!"พยัคฆคุกเข่าขอร้องต่อเดชา"....ทำไมถึงได้อยากเรียนวิชานี้นักล่ะลูก?"เดชาถามพยัคฆ"....หากว่าข้าใช้อาวุธอื่นก็เท่ากับว่า ข้าปิดกั้นพลังของตนเอง เช่นนั้นแล้ว ข้าจะปกป้องอันใดได้หรือ?!"พยัคฆตอบเสียงหนักแน่น"....แต่วิชานี้ยากกว่าวิชาสายอื่นๆของเราเชียวนะ! ลูกก็รู้ดีไม่ใช่หรือ? พ่อว่าลูกควรคิดให้ดีเสียก่อนจะดีกว่า..."เดชาอธิบาย"ข้าตรองดีแล้วพ่อครู ข้าไม่สนว่าจักยากเพียงใด หรือ ใครจะมองข้าว่าเช่นใดก็ชั่ง ข้าไม่สนแล้ว กับการเป็นผู้กล้าอะไรนั่น! ข้าจะเป็นนักล่าสัตว์ร้าย เพื่อปกป้องครอบครัวของข้า ข้าตัดสินใจแล้ว!!"พยัคฆยืนยันอย่างหนักแน่น"ให้มันได้อย่างนี้สิลูกพ่อ! หากลูกตั้งใจแน่วแน่ขนาดนี้แล้ว พ่อจะช่วยลูกเอง!!"เดชาพูดอย่างชื่นชม"จริงหรือขอรับพ่อครู?! ขอบพระคุณพ่อครูมากๆขอรับ!!"พยัคฆพูดอย่างดีใจ
.
.
.
.